??เช้าวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา คณะผู้บริหารคลีนิคดินจากประเทศไทยเข้าพบ ดร.เอซาน มุขมนตรีของรัฐมอญ รัฐมนตรีเกษตรฯ ปลัดและรองปลัดกระทรวงเกษตรฯ เรื่องที่บริษัท คลีนิคดิน จำกัดของไทยจะรับไปสุ่มตรวจสภาพดินทั้ง 12,296 ตารางกิโลเมตรของรัฐมอญ เมื่อตรวจสภาพดินแล้ว ก็จะตั้งคลีนิคดินเพื่อให้บริการปรับปรุงดินตามเมืองต่างๆของรัฐนี้??

เมืองที่มีการจัดตั้งคลีนิคดินสำเร็จไปแล้ว ขณะนี้ก็มีเมืองเมาะลำเลิง เมืองตาน-บยูซะยะ และเมืองเย และก่อนสิ้นปีนี้ก็มีเป้าหมายที่จะต้องตั้งคลีนิคดินในเมืองสะเทิม ไจมะรอ ไจโท เบะแว ชองโซน มูโดน ปอง บีลีน เมาะตะมะ ไจคะมี ซิตอง ละไมง์ กะมาเวะ ฯลฯ

ดร.เอซานและคณะรัฐมนตรีชุดนี้มาจากพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตยของนางซูจี ที่ชนะเลือกตั้งได้เป็นรัฐบาลปกครองประเทศเมื่อ พ.ศ.2558 ก่อนนี้ ผู้ปกครองระดับประเทศและระดับรัฐเกือบทั้งหมดเป็นทหารที่มาจากแต่งตั้ง พวกนี้ก็ไม่ค่อยสนใจการพัฒนาและอาชีพของประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาชีพด้านการเกษตร แต่พอเปลี่ยนมาเป็นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ผู้บริหารระดับประเทศและระดับรัฐและภาคก็ต้องขวนขวายทำงานเพื่อให้ประชาชนพอใจมากถึงขนาดจะเลือกพวกตนกลับมาเป็นผู้บริหารอีกในการเลือกตั้งครั้งหน้า

รัฐมนตรีเกษตรฯ เล่าให้คณะคลีนิคดินของไทยฟังว่า รัฐมอญมีพื้นที่ชายทะเลอันดามันยาวกว่า 566 กิโลเมตร ตอนนี้มีภาวะโลกร้อนทำให้ระดับน้ำทะเลสูงขึ้น และไหลเข้ามาตามแม่น้ำลำคลองสายต่างๆ เกลือเป็นสารที่ละลายน้ำได้ดี น้ำจึงเป็นพาหนะในการนำเกลือไปสะสมตามผืนดินในที่ต่างๆ ที่น้ำไหลผ่านหรือท่วมถึง จากนั้นก็เกิดการแพร่กระจายดินเค็มไปในหลายพื้นที่ ดินเค็มลดอัตราการดูดน้ำของพืช ทำให้พืชแสดงอาการขาดน้ำ เจริญเติบโตลดลง หรือทำให้พืชบางประเภทตายได้ นอกจากนั้น เกลือที่เอ่อมากับน้ำทะเลทำให้โครงสร้างของดินถูกทำลาย ทำให้การซึมซาบของน้ำช้าลง รัฐมนตรีเล่าเสร็จก็ถามว่าคลีนิคดินจะช่วยแก้ไขปัญหาดินเค็มได้ไหม ซึ่งคณะของคลีนิคดินเต็มใจออกไปตรวจสภาพดิน และพร้อมแก้ไขฟื้นฟูดินในพื้นที่ที่มีปัญหาการแพร่กระจายของดินเค็มตามที่รัฐมนตรีเล่า

มุขมนตรีของรัฐมอญต้องการปลูกอ้อยในที่ดินที่รกร้างว่างเปล่า 2,000 เอเคอร์ หรือ 5,000 ไร่ จึงขอให้พวกเราไปตรวจสภาพของดินเบื้องต้น ปรากฏว่าค่า PH ของดินต่ำมากมีสภาพเป็นกรดสูง จะปลูกพืชผักผลไม้ก็ต้องปรับปรุงดินก่อนปลูก ก่อนหน้านี้ คณะคลีนิคดินตระเวนไปตรวจสภาพดินในรัฐมอญหลายแห่ง พบว่าดินของรัฐนี้เสียจากการใช้ปุ๋ยเคมีและยาฆ่าแมลงมากเกินไป จนสภาพดินในพื้นที่เกษตรเสียหายแทบทั้งรัฐ

บ่ายของวันที่ 16 สิงหาคม 2561 ร.ต.อ.ดร.นิติภูมิธณัฐ มิ่งรุจิราลัย ตามไปฟังการบรรยายการปรับปรุงดินที่วัดแห่งหนึ่ง ไม่น่าเชื่อครับ ว่าเกษตรกรชาวมอญจะตื่นตัวเรื่องการปรับปรุงดินกันมาก

ถึงขนาดนี้ มาฟังกันหลายร้อยคน ที่เป็นเช่นนี้เพราะหลายปีที่ผ่านมา เกษตรกรเมียนมาใส่ปุ๋ยเคมีกันอย่างบ้าเลือดจนดินเสีย ยิ่งใส่ปุ๋ยเคมี ดินก็ยิ่งเสียมากขึ้น เกษตรกรชาวมอญทุกข์กับเรื่องนี้ จึงแห่มาฟังกันจนเต็มศาลาการเปรียญ

เช้าวันศุกร์ที่ 17 สิงหาคม 2561 อาจารย์นิติภูมิธณัฐพร้อมคณะคลีนิคดินไปเยี่ยมสำนักงานคลีนิคดินที่เมืองเมาะลำไย ไม่น่าเชื่อเช่นกันครับ ว่าเพิ่งเปิดได้ไม่นาน แต่มีคนมาขอใช้บริการจากคลีนิคมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ จากนั้น ก็เดินทางไปเยี่ยมคลีนิคดินที่เมืองตาน-บยูซะยะ และนั่งรถยนต์ต่อไปอีก 3 ชั่วโมง เพื่อไปบรรยายที่ศาลาประชาคมเมืองเย แม้ว่าจะเป็นเขตชนบทห่างไกลมาก แต่ก็มีคนมาฟังนายกฤษชนก ตัณฑเศรณีวัฒน์ และ ร.ต.อ.ดร.นิติภูมิธณัฐ มิ่งรุจิราลัย ประธานและรองประธานคลีนิคดินกันเกินร้อยคน

ความตื่นตัวการจะเลิกใช้สารเคมีและหันมาปรับปรุงดินอย่างจริงจังในรัฐมอญระเบิดขึ้นแล้วครับ และกำลังจะกระจายไปทั่วสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา.

กิจกรรมข่าวสาร

Comments are disabled.